พันธมิตรทุกภาคส่วน จับมือแถลงความสำเร็จของโครงการตามรอยพ่อฯ ปี 2
ข่าวประชาสัมพันธ์โครงการปี 2
เชฟรอนประเทศไทย รวมพลัง “สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง” “มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ” และรายการ ‘เจาะใจ’ พร้อมพันธมิตรหลายภาคส่วน ร่วมแถลงความสำเร็จโครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ปี 2 หลังได้รับผลตอบรับเกินความคาดหมายจากคนลุ่มน้ำป่าสักและประชาชนทั่วไป ตลอดจนภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่พร้อมใจน้อมนำศาสตร์พระราชาขับเคลื่อนแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างยั่งยืน โดยมีพลังจิตอาสากว่า 2,300 คน เข้าร่วมเดินทางเรียนรู้และเผยแพร่ศาสตร์พระราชาตลอด 9 วัน
นายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด เปิดเผยว่า “ผลสรุปของการรณรงค์เผยแพร่ความรู้เรื่องศาสตร์พระราชาและการเชิญชวนให้คนไทยลงมือทำตลอด 9 วัน ในปีที่ 2 นี้ เรียกได้ว่าเกินกว่าที่เราคิดไว้ ในปีนี้เราเดินทางกันต่อเนื่องจากปีที่แล้วอีกกว่า 313 กิโลเมตร ไปสู่เทือกเขาเพชรบูรณ์ ซึ่งไกลขึ้นกว่าเดิม หนทางยากลำบากมากขึ้น แต่กลับมีผู้ที่สนใจและเสียสละเวลาส่วนตัวมาร่วมกันทำกิจกรรมมากขึ้นกว่าปีที่แล้วรวมกว่า 2,300 คน ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ประชาชนและเยาวชนในชุมชนท้องถิ่นตลอดเส้นทาง เราเองก็ต้องขอขอบคุณพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนมาตั้งแต่ปีแรก อย่างกองทัพบก จังหวัดสระบุรี คณะนักปั่น เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ คนมีใจอย่างกำนันไก่และพี่บุญล้อม และเรายังมีเครือข่ายที่เข้ามาร่วมกับเราในปีนี้เพิ่มเติม อย่างสถาบันเทคโนโลยีเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จังหวัดเพชรบูรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์ ทุกท่านทุกองค์กรถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้โครงการเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ”
นายไพโรจน์ กล่าวถึงความต่อเนื่องในการเดินหน้าของโครงการฯ ว่า “แม้เราจะเดินทางกันปีละ 9 วัน แต่เราทำงานกันตลอด ซึ่งผมก็ต้องขอขอบคุณทางสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ที่ทำงานต่อเนื่องกับคนต้นแบบ และคนมีใจในพื้นที่ตลอดทั้งสระบุรีไปจนถึงเพชรบูรณ์อย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เชฟรอนเองก็ยินดีที่ได้มีส่วนสนับสนุนทางสถาบันฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสนับสนุนการศึกษา การสนับสนุนบุคคล และองค์กรต้นแบบที่นำพื้นที่ของตนเองปรับมาใช้ทฤษฎีโคก หนอง นา การจัดอบรมเครือข่ายและวิทยากรที่มีผู้เข้าร่วมอบรมแล้วทั้งสิ้น 279 คน และการนำจิตอาสาของเชฟรอนไปช่วยให้กำลังใจ ลงมือ ลงแรง ปรับปรุงพื้นที่ของบุคคลต้นแบบ รวมถึงเปิดโอกาสให้พนักงานของเราได้มาเรียนรู้วิถีกสิกรรมธรรมชาติกับอาจารย์ยักษ์ และวิทยากรของสถาบันฯ”
ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ กล่าวว่า “โครงการนี้เริ่มต้นจากลุ่มน้ำป่าสักซึ่งเป็นลุ่มน้ำที่จัดการได้ยากที่สุดให้เป็นต้นแบบก่อน เพียงแค่ปีครึ่งก็เริ่มเห็นผลจากการลงมือทำจริงแล้ว โรงเรียนก็ขยายผลไป ชุมชนก็เห็นผลแล้ว คนมีใจก็เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่ใช่แค่การลงมือทำในพื้นที่ที่ไปรณรงค์ แต่สิ่งที่ทำกลายเป็นโมเดลในการขยายผลไปทั่วประเทศ ทุกวันนี้มีองค์กรภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่เข้ามาร่วม ทั้งภาครัฐ ทหารซึ่งทุ่มเทกำลังกับเรื่องนี้มาก ทางราชการก็ร่วมมือด้วยอย่างเต็มที่ ด้านภาควิชาการเริ่มแรกได้คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังมาช่วยเรื่องการออกแบบ ตอนนี้ก็มีมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ที่เข้ามาเสริมด้านงานวิจัย จนในวันนี้คนในลุ่มน้ำอื่นก็เริ่มก้าวตามรอยศาสตร์พระราชาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลุ่มน้ำน่าน ลุ่มน้ำบางปะกง และลุ่มน้ำชายฝั่งทะเลตะวันตกของภาคใต้ที่จังหวัดระนอง มีการประชุมวางแผนปฏิบัติการฟื้นฟูลุ่มน้ำ เห็นความตั้งใจของคนในลุ่มน้ำต่าง ๆ โดยเฉพาะคนในลุ่มน้ำป่าสักที่มุ่งมั่น “ทำทันที” เชื่อมั่นว่าจะต้องสำเร็จแน่นอน สิ่งสำคัญที่จะทำให้เราก้าวไปถึงเป้าหมายได้คือ การรวมพลัง 5 ภาคี โดยเฉพาะภาคสื่อมวลชน ซึ่งมีส่วนอย่างมากในการเร่งเครื่องและขับเคลื่อนเรื่องนี้สู่ความสำเร็จได้รวดเร็ว”
นายวัชระ แวววุฒินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอส แอล โกลบอลมีเดีย จำกัด ผู้ผลิตรายการเจาะใจ กล่าวว่า “ในปีนี้มีคนบันเทิงอย่าง ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์ แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ เก้า จิรายุ ละอองมณี และบอย พิษณุ นิ่มสกุล เข้ามาร่วมทำกิจกรรมในโครงการฯ ซึ่งถ้าใครได้ดูรายการเจาะใจจะเห็นได้ว่าพวกเขาทั้ง 4 คนทุ่มเทกันจริง ๆ ลงมือทำจริง เป็นเรื่องที่น่ายกย่องชื่นชม หลังจากรายการได้ออกอากาศไปก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีผู้สนใจจำนวนมากโทรศัพท์จากทั่วประเทศเข้ามาสอบถามรายละเอียดโครงการ ในฐานะผู้ผลิตรายการเจาะใจ รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ช่วยถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ แบบนี้ และเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมาศึกษาศาสตร์พระราชามากขึ้น ที่สำคัญได้แรงเสริมจากพี่น้องสื่อมวลชนทุกท่านทุกแขนงที่ได้ช่วยกันเผยแพร่เรื่องราวดี ๆ เหล่านี้”
โครงการ “พลังคนสร้างสรรค์โลก รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน” ปี 2 ได้สานต่อแนวคิดการอนุรักษ์ลุ่มน้ำด้วยศาสตร์พระราชา โดยมุ่งเน้นการรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชนทั่วไป และได้นำลุ่มน้ำป่าสักขึ้นมาเป็นเป้าหมายหลัก เนื่องจากเป็นลุ่มน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงห่วงใยมากที่สุด การดำเนินกิจกรรมหลักคือการเดินทางตลอด 9 วัน เพื่อรณรงค์ให้ชุมชนต้นแบบได้น้อมนำศาสตร์พระราชาลงไปปฏิบัติในพื้นที่ของตนเอง เพื่อให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้ และเป็นพื้นที่เรียนรู้ให้ชุมชนโดยรอบ โดยในปีนี้เป็นการณรงค์ในจังหวัดเพชรบูรณ์เนื่องจากเป็นจังหวัดที่พื้นที่กว่า 50% ของลุ่มน้ำป่าสัก
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าหรือสอบถามรายละเอียดของโครงการได้ที่ Facebook “รวมพลังตามรอยพ่อของแผ่นดิน”